Alert: You are not allowed to copy content or view source

เปิดใจสาวจีนหลงไหลในชุดนักเรียนไทย “มันทำให้ฉันรู้สึกอายุน้อยลงไป 10 ปี”

เรียบเรียงโดย : เว็บข่าวสารThaiFS - 11 มีนาคม 2566 746

สาวในชุดนักเรียนไทย กระโปรงยาวเลยเข่า โพสต์ท่าอย่างมั่นใจให้ช่างภาพเก็บบันทึกความน่ารักและสดใส ภายในสวนหลวง ร.9 ในกรุงเทพมหานคร

ชุดนักเรียนสีขาวปลอดของเธอ บนปกเสื้อมีริบบิ้นสีดำตัดขวาง เป็นภาพที่คนผ่านมาผ่านไป คงยิ้มอย่างเอ็นดูถึงความน่ารักสดใสของวัยรุ่นชั้นมัธยม

แต่หากเข้าไปพูดคุยกับเธอจะได้รู้ว่า เธอพูดภาษาไทยได้เพียงคำทักทายง่าย ๆ นั่นเพราะเธอเป็นนักท่องเที่ยวจีน และไม่ได้เป็นวัยรุ่นชั้นมัธยม แต่เป็นแม่ค้าขายของออนไลน์ ที่มีอายุ 36 ปีแล้ว

“ใส่ชุดนักเรียนไทยแล้ว มันทำให้รู้สึกบริสุทธิ์ผุดผ่อง รู้สึกเหมือนกลับไปเป็นสาวอีกครั้ง” เป้า เหวิน เยี่ยน บอกกับบีบีซีไทย

“มันทำให้ฉันรู้สึกอายุน้อยลงไป 10 ปี”

ชุดนักเรียนไทยกำลังเป็นแฟชันใหม่ยอดนิยม สำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีน โดยเฉพาะผู้หญิง ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย หากมองผิวเผิน แทบแยกไม่ออกเลยว่า เป็นนักเรียนไทย หรือนักท่องเที่ยวจีนกันแน่

กลุ่มนักท่องเที่ยวสาวจีน จะเข้าไปซื้อชุดนักเรียน พร้อมปักชื่อตนเองเป็นภาษาไทย ก่อนเดินทางไปถ่ายรูป ปักหมุดตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เพื่อโพสต์ลงสังคมออนไลน์

ตามรอยภาพยนตร์ไทย-นักแสดงจีน

เป้า เหวิน เยี่ยน อธิบายถึงที่มาของกระแสชุดใส่ชุดนักเรียนไทยว่า ได้แรงบันดาลใจมาจาก จวี จิ้งอี หรือ เสี่ยวจวี นักร้องนักแสดงหญิงชาวจีน อดีตสมาชิกวง SNH48 ที่โด่งดังจากบทบาท “นางพญางูขาว” ได้เดินทางมาเที่ยวประเทศไทย เมื่อเดือน ก.พ. 2566

เธอได้ซื้อชุดนักเรียนไทย ปักชื่อเป็นภาษาไทยว่า “จวีจิ้งอี 991” ใส่ถ่ายรูปตามสถานที่ต่าง ๆ ใน กทม. และโพสต์ในสังคมออนไลน์ จนได้รับความสนใจจากผู้ติดตามชาวจีน

“นักแสดงดัง จวี จิ้งอี ใส่ชุดนักเรียนไทยแล้วถ่ายรูป... ฉันคิดว่ามันดูดีมาก” เป้า เหวิน เยี่ยน เล่าถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้เมื่อเธอและเพื่อนจะมาเที่ยวในไทย จึงวางแผนซื้อชุดนักเรียนไทยมาถ่ายรูปบ้าง

ส่วนตัวแล้ว เธอชอบแต่งกายในชุดนักเรียนของชาติอื่น ๆ อยู่แล้ว ก่อนจะนำรูปที่เธอแต่งชุดนักเรียนญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศให้บีบีซีไทยดู

สิ่งที่เหนือความคาดหมาย นอกจากภาพถ่ายน่ารัก ๆ ในชุดนักเรียนแล้ว คือ การที่คนไทยหลายคนเข้ามาทักทายพวกเธอ และ “เรียกชื่อฉันตามชื่อที่ปักบนเสื้อ คนไทยเป็นมิตรมาก”

เจ้าของร้านขายชุดนักเรียนในย่านบางลำพู ที่รับปักชื่อให้นักท่องเที่ยวชาวจีน บอกกับบีบีซีไทยว่า กระแสแต่งชุดนักเรียนไม่ได้โด่งดังจาก จวี จิ้งอี เท่านั้น แต่ยังมาจากภาพยนตร์ไทยที่เข้าไปฉายในจีนอีกด้วย

“เขาดูซีรีส์ไทย (เด็กใหม่ 2) และหนังวัยรุ่น ‘สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารัก’ ที่มาริโอเล่นกับใบเฟิร์น อันนั้นดังมาก” เจ้าของร้านขายชุดนักเรียน อธิบาย “เขาก็เลยตามรอยหนังไทย ใส่ชุดนักเรียนตามในหนัง”

เวลานี้เป็นช่วงปิดเทอมในไทย สำหรับร้านขายชุดนักเรียนแล้ว นักท่องเที่ยวจีนที่นิยมเข้ามาซื้อชุดไปถ่ายรูป ถือเป็นโอกาสสร้างรายได้ แต่เจ้าของร้านก็ยอมรับว่า วันหนึ่งจะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาซื้อชุดไม่ถึง 10 ราย

“เข้าร้านไหนก็เหมือนกัน แบบที่เขาซื้อก็คือแบบธรรมดาทั่วไป มีขายทุกร้าน ซื้อแค่ชุดและปักชื่อทับศัพท์ชื่อจีนเขา”

ความแตกต่างจากชุดนักเรียนจีน

ภาพกลุ่มสาวชาวจีนวัยสดใส สวมชุดนักเรียนไทย เดินไปมาในย่านท่องเที่ยวของ กทม. กลายเป็นภาพที่เริ่มเห็นมากขึ้น และกลายเป็นข่าวที่สื่อมวลชนไทยให้ความสนใจ หลังชุดภาพถ่ายนักท่องเที่ยวจีนในชุดนักเรียนไทยที่บีบีซีไทย และสำนักข่าวออนไลน์อีกหลายสำนัก นำไปเผยแพร่แล้วได้รับการแชร์ต่อไปอย่างกว้างขวาง

ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในไทย แสดงความเห็นว่า “นี่แหละเสน่ห์ของชุดนักเรียนไทย” “น่ารักมาก” และคอมเมนต์เชิงบวกอีกมาก

แต่ก็มีการตั้งคำถามว่า ในขณะที่นักท่องเที่ยวชาวจีนอยากใส่ชุดนักเรียนไทย แต่มีนักเรียนไทยจำนวนไม่น้อย ที่อยากให้ยกเลิกระเบียบการแต่งกายในชุดนักเรียน

เมื่อปี 2563 ได้เกิดแฮชแท็กที่กลายเป็นเทรนดิงอันดับ 1 ในทวิตเตอร์ คือ #1ธันวาบอกลาเครื่องแบบ มาจากการรณรงค์ของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “นักเรียนเลว” เรียกร้องให้ยกเลิกเครื่องแบบนักเรียน ซึ่งเป็นประเด็นถกเถียงมานานแล้วในสังคมไทย

นายลภนพัฒน์ หวังไพสิฐ หนึ่งในแกนของนำกลุ่มนักเรียนเลว อธิบายว่า “ไม่ได้ต้องการให้ยกเลิกการใส่เครื่องแบบ แต่ต้องยกเลิกการบังคับใส่เครื่องแบบ เพื่อให้เลือกได้อย่างเสรี ใครไม่อยากใส่ก็ไม่ต้องใส่ ใครอยากใส่ก็ให้ใส่”

ด้าน นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในเวลานั้น ประกาศว่าจะไม่ยกเลิกเครื่องแบบนักเรียนโดยเด็ดขาด เพราะการแต่งกายในชุดนักเรียน เป็นการแยกระดับการศึกษาของนักเรียนแต่ละชั้น และชุดนักเรียนเป็นเครื่องหมายแยกบุคคลทั่วไปกับนักเรียน ทำให้เกิดความเป็นระเบียบ

บีบีซีไทย ถาม เป้า เหวิน เยี่ยน ถึงประเด็นนี้ ซึ่งเธอตกใจที่ทราบว่า นักเรียนไทยบางส่วนไม่อยากใส่ชุดนักเรียน เพราะเธอมองว่า ชุดนักเรียนไทย “น่ารักดี”

“ชุดนักเรียนจีน ส่วนใหญ่จะใส่กางเกงขายาว” เธออธิบายถึงความแตกต่างของชุดนักเรียนในจีนที่เธอเคยใส่ กับชุดนักเรียนไทย “แต่ชุดนักเรียนหญิงไทยใส่กระโปรง ฉันคิดว่าใส่กระโปรงแล้วรู้สึกดีมากเลย”

“น่าแปลกใจนะที่นักเรียนไทยบางคนไม่อยากใส่ชุดนักเรียน เพราะชุดนักเรียนไทยดูดีมากเลย”

อย่างไรก็ดี เป้า เหวิน เยี่ยน ยอมรับว่า นักท่องเที่ยวจีนมีการพูดคุยกันด้วยความกังวล หลังมีทนายความไทยคนหนึ่ง เตือนว่า ถ้าพวกเขาใส่ชุดนักเรียนแล้วจะเสี่ยงถูกปรับเงิน

ทนายคนดังกล่าว คือ รัชพล ศิริสาคร ที่โพสต์คลิปเตือนเมื่อ 7 มี.ค. ว่า คนที่ไม่ใช่นักเรียนแล้วแต่งชุดนักเรียน จะเสี่ยงถูกปรับเงิน 1,000 บาท ตาม พ.ร.บ. เครื่องแบบนักเรียน พ.ศ. 2551

ต่อมา นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงคำเตือนปรับเงินนักท่องเที่ยวใส่ชุดนักเรียนไทยว่า อยากให้มองที่เจตนา ถ้าใส่เพื่อการท่องเที่ยว ถือเป็นเรื่องดี ไม่สร้างความเสียหาย กลับกัน กระแสลักษณะนี้ จะช่วยให้ชุดนักเรียนไทยกลายเป็น “ซอฟต์พาวเวอร์” ได้

“ส่วนจะเป็นการสร้างความเข้าใจผิดหรือไม่นั้นหากนักท่องเที่ยวใส่ในสถานที่อโคจร ตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีการใส่ชุดนักเรียนไปเที่ยวในสถานที่ที่ไม่เหมาะสม มองว่าเรื่องดังกล่าวก็เหมือนกับที่เราไปต่างประเทศก็อยากจะใส่แฟชั่นตามความนิยมของประเทศนั้น เช่น ในประเทศญี่ปุ่น ก็มีแฟชั่นชุดนักเรียนญี่ปุ่น เป็นต้น ดังนั้น การที่นักท่องเที่ยวใส่ชุดนักเรียน ก็สามารถทำได้ ไม่เสียหายอะไร” นางสาวตรีนุช ระบุ

 

 

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

บทความอ่านเยอะสุด