Alert: You are not allowed to copy content or view source

นศ.สาวเมียนม่าเสียท่าหนุ่มอิหร่านหลอกคบ 5 เดือนฉกทรัพย์สินกว่า 24 ล้านหนีออกนอก

เรียบเรียงโดย : เว็บข่าวสารThaiFS - 6 ธันวาคม 2566 828

นศ.สาวพม่า โร่แจ้งจับ นักมวยหนุ่มหน้าตาดีชาวอิหร่านสุดแสบ หลังคบหาเพียง 5 เดือน ใช้โยเกิร์ตมอมยา ฉกทรัพย์มูลค่ากว่า 24 ล้านบาท เผ่นหนีออกนอกประเทศลอยนวล ตำรวจ สน.พระโขนง เตรียมประสานตำรวจสากลขอหมายแดงตามล่าตัว

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 5 ธันวาคม 2566 พ.ต.อ.โอภาส หาญณรงค์ ผกก.สน.พระโขนง รับแจ้งจาก ร.ต.ท.ปฎิพล ท้าวแก่นจันทร์ รอง สว.(สอบสวน) สน.พระโขนง ว่าเมื่อวานนี้ (4 ธ.ค.) เวลา 13.40 น. ขณะปฏิบัติหน้าที่ได้มีผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิง ทราบชื่อต่อมาคือ Miss NANG MWE HLAING สัญชาติเมียนมา เดินทางเข้าแจ้งความว่า ตนได้คบหากับ MR.MALEKI BEHNAM อายุ 21 ปี สัญชาติอิหร่าน หนังสือเดินทางเลขที่ V60135741 มาประมาณ 5 เดือน และอาศัยอยู่กินด้วยกันที่คอนโดฯ แห่งหนึ่งในซอยสุขุมวิท 50 ถ.อาจณรงค์ แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม. กระทั่งช่วงเช้าวันที่ (4 ธ.ค.) ตื่นมาพบว่าทรัพย์สินของ Miss NANG MWE HLAING ได้หายไปหลายรายการ อาทิ เงินสด 4 แสนบาท, นาฬิกายี่ห้อโรเล็กซ์ ราคาประมาณ 6 แสนบาท, โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ iPhone 15 จำนวน 1 เครื่อง และ iPhone 13 อีก 1 เครื่อง, ไอแพด, เงินในกระเป๋าอีก 1 หมื่นบาท, เหรียญดิจิทัล มูลค่าประมาณ 23 ล้านบาท และบัตรเอทีเอ็ม 1 ใบ ได้หายไป 

ต่อมาผู้เสียหายจึงเดินทางไปยังค่ายมวยที่ MR.MALEKI ชาวอิหร่าน ฝึกซ้อมอยู่นั้น จนทราบว่า MR.MALEKI ได้เดินทางออกจากประเทศไทยไปแล้วตั้งแต่ช่วงเวลา 08.30 น. ของวันที่ 4 ธ.ค. จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความที่ สน.พระโขนง 

นอกจากนี้ Miss NANG MWE HLAING ผู้เสียหายให้การด้วยว่า ช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน ก่อนเกิดเหตุ ทางชายชาวอิหร่านได้นำโยเกิร์ตมาให้ผู้เสียหายดื่มกิน จากนั้นทำให้สลบไปแบบไม่รู้ตัว กระทั่งตื่นอีกทีเที่ยงวันก็มาพบว่าทรัพย์สินได้หายไป รวมถึงคีย์การ์ดห้องพัก ทำให้ไม่สามารถออกจากคอนโดฯ ได้

ร.ต.ท.ปฎิพล กล่าวว่า หลังจากที่ตนได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย เมื่อตรวจสอบจากทาง ตม. ก็พบว่าผู้ต้องหาเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว จึงหาวิธีช่วย โดยพบว่าเงินดิจิทัลวอลเล็ตที่ถูกโอนออกไปของผู้เสียหาย เป็นของประเทศจีน ที่ กลต.ไม่รองรับ และต้องใช้รหัส 8 หลัก ตนจึงค้นหาจนเจอเฟซบุ๊กของน้องสาวผู้เสียหาย จนได้รหัสทั้ง 8 หลักมา เนื่องจากมือถือของผู้เสียหายถูกคนร้ายซึ่งรู้รหัสเข้าวอลเล็ตด้วย จากนั้นเมื่อเข้าไปเช็กเงินในวอลเล็ตผู้เสียหาย พบว่าเงินทั้งหมดได้หายไป จากนั้นจึงส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจหาสารกดประสาทหรือยานอนหลับ ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ แต่ยังไม่พบ จึงต้องให้ไปตรวจซ้ำที่โรงพยาบาลตำรวจ พร้อมประสานให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ไปเก็บพยานหลักฐานเป็นแก้วโยเกิร์ตที่คอนโดฯ จุดเกิดเหตุ คาดว่าจะต้องรอผลไม่ต่ำกว่า 1 เดือน

พ.ต.อ.โอภาส กล่าวว่า จากการสอบถามหญิงเมียนมาผู้เสียหายทราบว่า มีโทรศัพท์จำนวน 3 เครื่องที่หายไป เป็นโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และ iPad 1 เครื่อง และตรวจสอบพบว่ามีพิกัดมาโผล่อยู่บริเวณในคลองซอยภูมิจิตร แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม. จึงให้อาสามูลนิธิร่วมกตัญญูร่วมกันงมหามือถือของกลาง ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ เชื่อว่าน่าจะติดตัวไปกับผู้ต้องหา 

ส่วนของตัว MR.MALEKI ชาวอิหร่าน นั้นยืนยันว่าได้เดินทางออกจากประเทศไปแล้ว ซึ่งขณะนี้ได้ประสานให้สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองนำภาพวงจรปิดขณะ MR.MALEKI เดินเข้าออกสนามบิน เพื่อนำมาประกอบกับสำนวนในการติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นอกจากนี้มีรายงานแจ้งว่า ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำชุดประดาน้ำลงพื้นที่งมค้นหาของกลางมือถือดังกล่าว บริเวณคลองภายในซอยภูมิจิตร โดยใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง กระทั่งพบโทรศัพท์ ยี่ห้อไอโฟน รุ่น 15 โปร จำนวน 1 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐานเพื่อนำไปตรวจสอบ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้เสียหายได้มาเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยชื่อดังในกรุงเทพฯ และได้ทำธุรกิจเปิดร้านอาหาร ก่อนจะรู้จักกับฝ่ายชายซึ่งมาเรียนซ้อมนักมวยที่ประเทศไทย เป็นคนหน้าตาดี และเกิดชอบพอกัน หลังเกิดเหตุก็มีอาการเครียดเสียใจป็นอย่างมาก เพราะทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปเป็นของครอบครัวที่ให้มาเป็นทุนทำธุรกิจ และเรียนหนังสือ

เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนเตรียมขอศาลเพื่อออกหมายจับ และออกหมายเรดโนติส หรือหมายจับสากล เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ข่าวอ่านเยอะสุด